ภาษาซี
ภาษา C คืออะไร
ภาษา C เป็นภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป เป็นภาษาที่มีความจำเป็นมาก มันสนับสนุนการเขียนโปรแกรมที่มีโครงสร้าง การกำหนดขอบเขตของตัวแปร และการเรียกใช้ตัวเอง (recusion) และมันเป็นภาษาที่อยู่ในระดับ low level นั่นคือ มันเป็นภาษาที่สามารถทำงานได้ดีในระดับของฮาร์ดแวร์ ภาษา C เป็นสามารถที่ออกแบบมาให้สามารถที่จะทำงานกับคำสั่งพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นมันจึงถูกพบบ่อยในการใช้สร้างแอพพลิเคชันในสมัยก่อนที่เขียนโดยภาษาแอสเซมบลี รวมถึงระบบประฏิบัติการ เช่นเดียวกันกับซอฟต์แวร์ประยุกต์สำหรับคอมพิวเตอร์ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ และระบบฝังตัว
ประวัติของภาษา C
ภาษา C นั้นถูกพัฒนาครั้งแรกโดย Dennis Ritchie ในระหว่างปี 1969 และ 1973 ที่ Bell Labs และใช้สำหรับพัฒนาและปรับปรุงระบบปฏิการ Unix ใหม่ ตั้งแต่นั้นมันได้มาเป็นภาษาที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางมากที่สุดตลอดเวลา ที่มากับ C คอมไพเลอร์จากบริษัทพัฒนาต่างๆ สำหรับพัฒนาในสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก ภาษา C ได้ถูกกำหนดมาตฐานโดย American National Standards Institute (ANSI) ตั้งแต่ปี 1989 และ International Organization for Standardization (ISO) ในเวลาต่อมา
ภาษา C เป็นภาษาที่มีรูปแบบการเขียนโปรแกรมเป็นแบบลำดับ (imperative procedural) ให้ถูกออกแบบให้คอมไพล์อย่างตรงไปตรงมากับคอมไพเลอร์ที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเข้าถึงการจัดการหน่วยความจำในระดับต่ำ และทำให้โครงสร้างของภาษาเชื่อมโยงกับคำสั่งการทำงานของคอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ภาษา C จึงมีประโยชน์กับการพัฒนาแอพพลิเคชันที่เคยเขียนโดยภาษา Assembly ยกตัวอย่าง เช่น โปรแกรมระบบ
ถึงแม้ว่าภาษา C มีความสามารถใน low-level แต่มันยังถูกออกแบบเพื่อช่วยให้สามารถเขียนโปรแกรมแบบ cross-platform โค้ดของโปรแกรมที่เขียนขึ้นจากมาตรฐานของภาษา C นั้นสามารถนำไปคอมไพล์ได้ในคอมพิวเตอร์ในแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการที่หลากหลายโดยเพียงแค่เปลี่ยนแปลงโค้ดเพียงเล็กน้อย ภาษา C นั้นสามารถใช้ได้อย่างกว้างขวางในแพลตฟอร์มขนาดต่างๆ ตั้งแต่ embedded microcontrollers ไปจนถึง supercomputer
คอมไพเลอร์
คอมไพเลอร์เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่แปลงโค้ดที่เขียนในภาษาคอมพิวเตอร์ อย่างเช่น ภาษา C ไปเป็นภาษาเครื่อง ซึ่งมันเป็นภาษาที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถอ่านและทำงานได้ ซึ่งภาษาเครื่องนั้นจะมีรูปแบบในตัวเลขฐานสอง ที่ประกอบไปด้วย 1 และ 0 เท่านั้น ซึ่งเรียกว่าออบเจ็คโค้ด เหตุผลที่ต้องทำการแปลงก็เพื่อทำโปรแกรมให้สามารทำงานได้ (executable program)
คอมไพเลอร์นั้นมีประโยชน์มากสำหรับนักเขียนโปรแกรม เพราะว่ามันช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาโปรแกรมได้อย่าง่ายดายโดยที่ไม่ต้องสร้างคอมไพเลอร์ด้วยตัวเอง คอมไพล์เลอร์มักจะมาพร้อมกับเครื่องมือพัฒนาโปรแกรม Integrated development environment (IDE) ซึ่งประกอบไปด้วย Text editor คอมไพเลอร์ และเครื่องมืออำนวยความสะดวกอื่นๆ มากมาย
เครื่องมือพัฒนาสำหรับภาษา C
ในการที่จะเขียนโปรแกรมในภาษา C คุณต้องการ IDE เพื่อช่วยในการพัฒนาโปรแกรมของคุณ IDE เป็นโปรแกรมที่รวบรวมเครื่องมือที่จำเป็นในการพัฒนา มันเป็นซอฟแวร์ประยุกต์ที่อำนวยความสะดวกเป็นอย่างมากสำหรับนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และนักพัฒนาซอฟแวร์สำหรับการพัฒนาโปรแกรม โดยปกติแล้ว IDE จะประกอบไปด้วยโปรแกรมแก้ไขข้อความ ตัวดีบักโปรแกรม และอื่นๆ
IDE สามารถเป็นโปรแกรมแก้ไขข้อความใดๆ เช่น notepad แต่ในบทเรียนภาษา C นี้ เราจะแนะนำให้คุณใช้ Code Block ในการเขียน เพราะมันมีคุณสมบัติหลายอย่างที่สนับสนุนภาษา C มันฟรีและสามารถใช้ได้บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Windows Linux และ MacOS ซึ่งมากับคอมไพเลอร์ GCC
โครงสร้างพื้นฐานของโปรแกรมภาษาซี
1) ส่วนหัวของฟังก์ชัน ประกอบด้วย ชนิดข้อมูล ชื่อฟังก์ชัน main ตามด้วยเครื่องหมาย ( และ ) ตามลำดับ สำหรับชนิดข้อมูล เป็นการระบุว่าฟังก์ชันนี้จะส่งค่ากลับไปให้กับฟังก์ชันผู้เรียกเป็นข้อมูลชนิดใด โดยทั่วไปแล้วสำหรับฟังก์ชัน main() จะส่งค่ากลับเป็นชนิดข้อมูลจำนวนเต็ม หรือ int
2) ส่วนการประกาศตัวแปร ใช้สำหรับประกาศตัวแปรชนิดต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลระหว่างการประมวลผล
3) ส่วนคำสั่ง ประกอบด้วยคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการรับเข้าและการแสดงข้อมูล คำสั่งประมวลผลอื่นๆ รวมถึงการเรียกใช้ฟังก์ชันอื่นได้ด้วย
ส่วนประกาศตัวแปรและส่วนคำสั่งจะต้องเขียนอยู่ระหว่างเครื่องหมาย { และ } เสมอ ทั้งสองส่วนนี้ ใช้สำหรับนิยามการทำงานของฟังก์ชัน main ( ) และคำสั่งทุกคำสั่งในภาษาซีจะต้องปิดท้ายด้วยเครื่องหมาย ; (semicolon) เสมอ
Comments
Post a Comment